บอสพอล The iCon

บอสพอล The iCon เข้าพบ ปคบ. แสดงความบริสุทธิ์ใจ อ้างไม่คิดว่าขายของออนไลน์จะผิด กม.

วันที่ 12 ตุลาคม 2567 นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือที่รู้จักกันในนาม “บอสพอล” ผู้บริหารและผู้ก่อตั้งบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด ได้เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) เพื่อชี้แจงและแสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังมีผู้เสียหายนับร้อยรายยื่นคำร้องเรียนต่อบริษัทว่ามีลักษณะคล้ายแชร์ลูกโซ่ ซึ่งนำไปสู่ความเสียหายทางการเงินจำนวนมหาศาลที่คาดว่าจะสูงถึงหลายร้อยล้านบาท
บอสพอลได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและยอมรับว่าไม่คาดคิดว่าการดำเนินธุรกิจของตนจะขัดต่อกฎหมาย เขายืนยันว่าตลอด 6 ปีที่ผ่านมาของการสร้างบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป ไม่เคยคิดว่าการขายสินค้าผ่านระบบออนไลน์ในลักษณะที่ทำอยู่จะถือว่าผิดกฎหมาย พร้อมเตรียมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างเต็มใจ เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์และหาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
ความเคลื่อนไหวของตำรวจและการสืบสวน ในช่วงเช้าวันเดียวกัน เวลา 10.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ. นำหมายค้นจากศาลอาญา เข้าตรวจค้นสถานที่เป้าหมายจำนวน 9 จุด ซึ่งเป็นสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทดิไอคอน กรุ๊ป ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล การตรวจค้นครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่การหาพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัท โดยเฉพาะเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดขาย และจำนวนการผลิตสินค้า เพื่อพิสูจน์ว่าบริษัทมีจุดประสงค์ในการจำหน่ายสินค้าจริงหรือเน้นการระดมทุนแบบที่ถูกกล่าวหา
ทางตำรวจจะมีการสรุปผลการตรวจค้นและแถลงข่าวในเวลา 14.00 น. ซึ่งถือเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญในการสืบสวนคดีนี้
บอสพอลให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนหลังการเข้าพบตำรวจว่า เขารู้สึกเสียใจและเศร้ามากกับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเมื่อทราบว่ามีผู้เสียหายจำนวนมาก และในบางกรณีมีผู้เสียชีวิตจากผลกระทบทางการเงินจากการลงทุนกับบริษัท เขายืนยันว่าเดินทางมาครั้งนี้เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจและให้ความร่วมมือกับกระบวนการยุติธรรมอย่างเต็มที่
“ผมขอยืนยันว่าผมไม่ได้มีเจตนาที่จะทำผิดกฎหมาย และไม่เคยคิดว่าการขายสินค้าผ่านระบบออนไลน์จะกลายเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย ผมทำธุรกิจนี้มาหลายปีและได้เห็นหลายบริษัททำแบบเดียวกัน ผมไม่ใช่คนแรกที่คิดหรือทำธุรกิจลักษณะนี้ ผมแค่เรียนรู้จากผู้ที่ประสบความสำเร็จมาก่อน” บอสพอลกล่าว

เยียวยาผู้เสียหายและความตั้งใจช่วยเหลือ

บอสพอลยังได้ประกาศแผนการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้ โดยเขาเผยว่าตนเองและบริษัทกำลังพิจารณาจัดตั้งศูนย์เยียวยาเพื่อช่วยบรรเทาความเสียหายแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการลงทุนในธุรกิจ นอกจากนี้ บอสพอลยังแสดงความตั้งใจที่จะขอให้มีบุคคลที่มีความน่าเชื่อถือจากสังคมเข้ามาร่วมในการกำหนดทิศทางการเยียวยา เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและยุติธรรมมากที่สุด
“เราพร้อมจะรับผิดชอบและช่วยเหลือทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ สิ่งที่เราจะทำคือการเยียวยาในด้านมนุษยธรรมและความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับผลทางคดี เราจะให้บุคคลที่สังคมให้ความเชื่อถือเข้ามาร่วมหารือในเรื่องนี้ เพื่อความเป็นธรรมและความโปร่งใส” บอสพอลกล่าว

ข้อสงสัยเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจ

เมื่อถูกถามถึงข้อสงสัยว่าธุรกิจของบริษัทมีความผิดพลาดหรือมีการหลอกลวงผู้ลงทุนหรือไม่ บอสพอลกล่าวว่าข้อมูลที่สังคมได้รับยังไม่ครบถ้วนและต้องการการพิสูจน์จากทั้งสองฝ่าย เขายืนยันว่าข้อมูลที่ทั้งบริษัทและผู้เสียหายจะนำเสนอในกระบวนการยุติธรรมจะช่วยให้สังคมเข้าใจและตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง
“ผมมั่นใจว่าทุกอย่างจะได้รับการพิสูจน์ผ่านกระบวนการยุติธรรม ผมเองก็เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นและพร้อมให้ความร่วมมือเต็มที่ในทุกขั้นตอน” บอสพอลกล่าวเพิ่มเติม

บทสรุป

กรณีของ “บอสพอล” และบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป ได้กลายเป็นหนึ่งในประเด็นที่ได้รับความสนใจจากสาธารณชนอย่างมาก เนื่องจากความเสียหายที่เกิดขึ้นกับผู้ลงทุนจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม การที่บอสพอลได้ออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจและยืนยันความตั้งใจที่จะเยียวยาผู้เสียหายแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะนี้การสืบสวนยังคงดำเนินต่อไปและต้องรอผลการตรวจสอบจากทางตำรวจเพื่อสรุปความจริงในเรื่องนี้