เจ๊แมนและเชฟอ้อย

ดราม่าแฟรนไชส์ “เจ๊แมนและเชฟอ้อย” ปัญหาที่เกินจะคาดเดา

เรื่องราวความขัดแย้งระหว่าง เจ๊แมนและเชฟอ้อย เกิดขึ้นจากดราม่าครั้งใหญ่ในวงการแฟรนไชส์อาหาร ซึ่งเคยเป็นประเด็นร้อนแรงในรายการ “โหนกระแส” เมื่อหลายเดือนก่อน เจ๊แมน ซึ่งมีชื่อเสียงจากการขายก๋วยเตี๋ยว ได้ออกมาแสดงความไม่พอใจเกี่ยวกับระบบแฟรนไชส์ของ เชฟอ้อย โดยกล่าวว่าระบบนี้ไม่แฟร์กับผู้ซื้อแฟรนไชส์ ทั้งการส่งของล่าช้าและการจัดการที่ไม่มีความชัดเจน สุดท้าย เจ๊แมน ได้ตัดสินใจหันมาขายสินค้าของตัวเองแทน หลังจากที่มีความขัดแย้งกันอย่างรุนแรง ทั้งสองฝ่ายก็สามารถเจรจาและยุติข้อขัดแย้งได้ในที่สุด

เชฟอ้อยถูกจับกุมข้อหายักยอกทรัพย์

ในวันที่ 8 ตุลาคม 2567 มีข่าวใหญ่เกี่ยวกับ เชฟอ้อย ซึ่งถูกตำรวจไซเบอร์จับกุมตามหมายจับของศาลแขวงบางบอน ข้อหายักยอกทรัพย์ โดยถูกจับได้ที่ห้างดังในเขตประเวศ กทม. กรณีนี้เริ่มต้นจากผู้เสียหายรายหนึ่งได้ให้ เชฟอ้อย ทำหน้าที่เป็นนายหน้าในการขายเพชรและทรัพย์สินมีค่ามูลค่ากว่า 2 ล้านบาท แต่กลับพบว่า เชฟอ้อย ได้นำทรัพย์สินนั้นไปใช้สำหรับธุรกิจส่วนตัวและไม่สามารถชดใช้เงินให้กับผู้เสียหายได้
เชฟอ้อยยอมรับสารภาพว่าได้ใช้เงินของผู้เสียหายไปจริง เนื่องจากธุรกิจแฟรนไชส์ที่เคยรุ่งเรืองกลับไม่เป็นไปตามคาดหลังจากที่เธอออกรายการ “โหนกระแส” ซึ่งทำให้ยอดขายลดลงอย่างหนัก โดยเฉพาะลูกชิ้นที่เธอเคยขายได้ดี ปัจจุบันต้องเผชิญกับปัญหาทางการเงิน ทำให้ไม่สามารถคืนเงินให้กับผู้เสียหายได้ตามกำหนด

เจ๊แมนโพสต์เคลื่อนไหวในโซเชียล

หลังจากมีข่าวการจับกุมของ เชฟอ้อย ก็มีการเคลื่อนไหวจากฝั่ง เจ๊แมน ทันที โดย เจ๊แมน ได้โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊กของตัวเอง “เจ๊แมน เตี๋ยวกะเทย” ว่า “วันนี้มีแต่คนคิดถึงฉัน” พร้อมติดแฮชแท็ก #เจ๊แมนเตี๋ยวกะเทย ทำให้หลายคนจับตาถึงความเชื่อมโยงระหว่างทั้งสองอีกครั้ง เนื่องจากการขัดแย้งในอดีตที่เคยเกิดขึ้นในเรื่องแฟรนไชส์ที่จบลงไป

ศาลให้ประกันตัวเชฟอ้อย

แม้ว่า เชฟอ้อย จะถูกจับกุม แต่ภายหลังจากการขอประกันตัว ศาลแขวงบางบอนได้พิจารณาและอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวโดยการวางหลักประกันเป็นเงินสด 200,000 บาท ทั้งนี้ เชฟอ้อยได้ยืนยันว่าเธอไม่ได้มีเจตนาที่จะหลบหนีและยังคงติดต่อผู้เสียหายเพื่อหาทางชดใช้เงินที่ค้างไว้อย่างเต็มจำนวน
เหตุการณ์ระหว่างทั้งสองคนนี้เป็นตัวอย่างของความขัดแย้งทางธุรกิจที่เริ่มจากความไม่พอใจในระบบแฟรนไชส์ จนขยายไปสู่การฟ้องร้องและการจับกุมในข้อหายักยอกทรัพย์ หลายคนอาจมองว่าเรื่องนี้เป็นเพียงปัญหาทางธุรกิจ แต่ในอีกด้านหนึ่งก็เป็นเรื่องราวของความเชื่อใจและความสัมพันธ์ระหว่างผู้ทำธุรกิจด้วยกัน
กรณีของเรื่องนี้ นำมาซึ่งบทเรียนสำคัญสำหรับผู้ประกอบการที่สนใจในการทำธุรกิจแฟรนไชส์ ความชัดเจนในการดำเนินงาน ระบบการจัดการที่ดี และความโปร่งใสเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน แต่ยังช่วยลดปัญหาขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต