ปปง. สั่งอายัดทรัพย์สินโครงการทุนจีน

ปปง. สั่งอายัดทรัพย์สินโครงการทุนจีน

ปปง. สั่งอายัดทรัพย์สินโครงการทุนจีน ในกรณีล่าสุดที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ออกคำสั่งอายัดทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มทุนจีน ซึ่งดำเนินการก่อสร้างโครงการคฤหาสน์หรูย่านสนามบินน้ำ โดยคณะกรรมการธุรกรรมที่ประชุมในวันที่ 18 กันยายน 2567 มีมติให้ยึดและอายัดทรัพย์สินจำนวน 52 รายการ รวมถึงที่ดิน คอนโดมิเนียม และบัญชีเงินฝาก มูลค่ากว่า 2,561 ล้านบาท คำสั่งดังกล่าวออกตามมาตรา 5 แห่งกฎหมายฟอกเงิน ซึ่งมีเป้าหมายในการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและการกระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงทรัพย์สิน
ทรัพย์สินที่ถูกอายัดรวมถึงที่ดินในจังหวัดนนทบุรี สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร โดยมีที่ดินแปลงใหญ่ประมาณ 30 ไร่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งถูกพัฒนาเป็นโครงการคฤหาสน์หรู ราคาบ้านเริ่มต้นที่ 100 ล้านบาทและสูงสุดถึง 700 ล้านบาท โครงการนี้ถูกดำเนินการโดยบริษัทกลุ่มทุนจีนซึ่งเข้ามาลงทุนในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2565 โดยได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

โครงการคฤหาสน์หรู ทุนจีนเมินคำสั่งอายัด เดินหน้าก่อสร้างต่อ

แม้จะมีคำสั่งอายัดจากทางปปง. โครงการก่อสร้างคฤหาสน์ริมแม่น้ำเจ้าพระยายังคงดำเนินการต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง นักข่าวลงพื้นที่เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2567 และพบว่าคนงานยังคงเข้าทำงานในโครงการดังกล่าว ป้ายคำสั่งอายัดที่ติดหน้าทางเข้าโครงการถูกปลดออกภายในไม่กี่วันหลังจากการติดตั้ง แสดงให้เห็นถึงการเพิกเฉยต่อคำสั่งของหน่วยงานทางกฎหมาย นอกจากนี้ โครงการดังกล่าวยังใช้แรงงานต่างชาติเป็นหลัก โดยเฉพาะคนงานชาวจีนที่เข้ามาทำงานในโครงการนี้ในลักษณะหมุนเวียนวีซ่านักท่องเที่ยว
โครงการคฤหาสน์หรูนี้ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 30 ไร่ และเป็นโครงการที่มีการพัฒนาบ้านพักอาศัยหรูระดับไฮเอนด์ ซึ่งแต่ละหลังมีขนาดใหญ่ถึง 5 ชั้น พร้อมห้องใต้ดินและสระว่ายน้ำ รวมทั้งอาคารพาณิชย์และท่าเรือส่วนตัว ความสำคัญของโครงการนี้ไม่เพียงแค่ความหรูหรา แต่ยังเป็นที่ตั้งที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้เป็นที่สนใจของกลุ่มลูกค้าที่ต้องการที่พักอาศัยในทำเลทองแบบนี้

นายทุนจีนกับคดีฟอกเงิน 2,561 ล้านบาท

การยึดทรัพย์สินครั้งนี้เกี่ยวข้องกับคดีฟอกเงินที่มีมูลค่าสูงถึง 2,561 ล้านบาท กลุ่มทุนจีนที่อยู่เบื้องหลังโครงการนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดฉ้อโกงประชาชน โดยใช้กลุ่มบัญชีม้าผ่านแอปพลิเคชันเทรดเงินดิจิทัล หลอกลวงให้ประชาชนลงทุนในสกุลเงินต่างประเทศ แต่ไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่โฆษณาไว้
นายสฤษฎ์ อดุลย์พิจิตร ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหา ได้มีส่วนร่วมในการประกาศชักชวนให้ลงทุนผ่านแอปพลิเคชัน และใช้บัญชีปลอมในการโอนเงิน นอกจากนี้ การใช้แรงงานชาวจีนที่ทำงานในโครงการนี้ยังเป็นสิ่งที่น่าสงสัยว่ามีการละเมิดกฎหมายแรงงานและการเข้าเมืองของไทยอีกด้วย
จากการตรวจสอบพบว่า โครงการก่อสร้างยังคงมีความก้าวหน้าและใกล้จะแล้วเสร็จ โดยมีกำหนดเปิดใช้งานในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ทรัพย์สินที่ถูกยึดไม่เพียงแต่เป็นที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง แต่ยังรวมถึงบัญชีธนาคารและห้องชุดในคอนโดมิเนียมหรูในกรุงเทพฯ ที่ถูกใช้ในการฟอกเงิน

การบังคับใช้กฎหมายในกรณีนี้

แม้ว่าจะมีการออกคำสั่งอายัดทรัพย์ แต่การดำเนินการบังคับใช้กฎหมายยังคงเป็นเรื่องท้าทาย ป้ายคำสั่งอายัดที่ถูกติดตั้งโดย ปปง. ถูกปลดออกอย่างรวดเร็ว ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องในการทำลายป้ายตามมาตรา 141 ของประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งมีบทลงโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีฟอกเงินนี้ และยังคงสืบสวนต่อเนื่องเกี่ยวกับแหล่งที่มาของทรัพย์สินและการเงินของกลุ่มทุนจีน โดยเจ้าหน้าที่เตรียมดำเนินคดีกับผู้รับเหมาที่มีส่วนร่วมในการรื้อป้ายคำสั่งอายัดนี้