นายกสมาคมไวยาวัจกรฯ สับพระปีนเสา หมดความเป็นสงฆ์แล้ว ยากที่จะอุทธรณ์กลับมาบวชอีก
นครปฐม – ประเด็นร้อนแรงในวงการสงฆ์เกิดขึ้นอีกครั้ง หลังจากมีคำสั่งจากเจ้าอาวาสวัดสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี ให้ “พระปีนเสา” หรือ พระครูปลัดธีรธนัช เมตตธมฺโม พ้นจากการสังกัดวัด เนื่องจากประพฤติผิดพระธรรมวินัยอย่างรุนแรง ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างเผ็ดร้อนในโลกโซเชียล ล่าสุด ทนายพจน์ ศุภภัทร์พจน์ นิติศศธร นายกสมาคมไวยาวัจกรแห่งประเทศไทย ได้ออกมาแสดงความเห็นถึงเหตุการณ์นี้ว่า เป็นการสิ้นสุดความเป็นพระสงฆ์ของ “พระปีนเสา” อย่างเป็นทางการแล้ว และยากที่จะอุทธรณ์กลับมาบวชอีกครั้ง
ประวัติศาสตร์ของ “พระปีนเสา” และเหตุการณ์ที่นำไปสู่การสละสมณเพศ
เหตุการณ์นี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อเจ้าอาวาสวัดสามชุก ได้ออกหนังสือคำสั่งให้ พระครูปลัดธีระ หรือที่รู้จักกันในนาม “พระปีนเสา” พ้นจากสังกัดวัด หลังจากไม่ได้ปฏิบัติตามคำสั่งและข้อแนะนำที่เจ้าอาวาสได้ตักเตือนเป็นลายลักษณ์อักษร โดยระบุว่าพระรูปนี้ไม่เคยจำพรรษาหรือพักอยู่ในวัดตั้งแต่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระในวัดสามชุกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2565
ทั้งนี้คำสั่งดังกล่าวมีผลตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 โดยมีเหตุผลหลักจากการไม่เชื่อฟังคำแนะนำของเจ้าอาวาสและไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของมหาเถรสมาคม ซึ่งกำหนดให้พระภิกษุต้องมีวัดเป็นที่พำนักอย่างเป็นหลักแหล่ง หากไม่มีการปฏิบัติตามก็ถือว่าผิดกฎมหาเถรสมาคมที่ว่าด้วยการให้พระภิกษุสละสมณเพศตามข้อ 21 (1) และ (2)
ทนายพจน์ สับแหลก – ไม่มีสิทธิ์อุทธรณ์!
ทางด้าน นายศุภภัทร์พจน์ นิติศศธร หรือทนายพจน์ นายกสมาคมไวยาวัจกรแห่งประเทศไทย ออกมาให้ความเห็นว่า “พระปีนเสา” ได้สิ้นสุดความเป็นพระไปแล้วโดยปริยาย เนื่องจากไม่สามารถอุทธรณ์หรือขอคืนสภาพเป็นพระสงฆ์ได้ตามข้อกฎหมายของมหาเถรสมาคม เพราะคำวินิจฉัยให้สละสมณเพศเป็นอันถึงที่สุด ตามข้อ 5 ที่ระบุชัดว่าพระที่ถูกให้สละสมณเพศต้องสึกภายในสามวัน หากไม่สึกจะถูกนำตัวไปสึกโดยเจ้าหน้าที่รัฐ
“กรณีนี้ ถ้าพระปีนเสาไม่ยอมสึกภายในกำหนด เจ้าอาวาสสามารถขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายราชการในการจัดการได้ทันที นับเป็นกรณีที่ชัดเจนของการฝ่าฝืนพระธรรมวินัย” ทนายพจน์กล่าว
ดราม่าใน TikTok – พระปีนเสาตอบโต้
หลังคำสั่งถูกประกาศออกไป “พระปีนเสา” ได้โพสต์คลิปใน TikTok โดยกล่าวหาว่าถูกกลั่นแกล้งและเป็นเหยื่อของขบวนการทำลายพระสงฆ์ พร้อมทั้งกล่าวหาผู้ที่ออกมาตำหนิเขาว่าบิดเบือนข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง ทำให้กระแสสังคมกลับมาติดตามประเด็นนี้อีกครั้ง
พระครูปลัดธีระยังได้กล่าวถึง กัน จอมพลัง และ หลวงพี่น้ำฝน ว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการปลุกระดมความเกลียดชังให้เกิดขึ้นต่อสาธารณะชน ซึ่งเป็นสิ่งที่ขัดต่อพระธรรมวินัยอย่างร้ายแรง ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์บนโลกโซเชียลเป็นอย่างมาก
ประชาชนเสียงแตก – เชื่อหรือไม่เชื่อ?
การที่ “พระปีนเสา” ถูกขับออกจากสังกัดวัดสร้างความเห็นต่างกันในสังคม บางคนเชื่อว่าพระรูปนี้ประพฤติผิดจริงตามที่เจ้าอาวาสกล่าว ขณะที่บางส่วนเชื่อว่าเป็นการกลั่นแกล้งและใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือทำลายพระสงฆ์
นอกจากนี้ ยังมีเสียงเรียกร้องให้ตรวจสอบและปรับปรุงกฎมหาเถรสมาคมให้ชัดเจนและเป็นธรรมมากยิ่งขึ้น เนื่องจากในกรณีนี้สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาความโปร่งใสในการดำเนินการของพระผู้ปกครองและพระภิกษุ
บทสรุป – ปิดฉากตำนานพระปีนเสา?
ในที่สุดแล้ว กรณีของ “พระปีนเสา” อาจจะเป็นกรณีตัวอย่างในการบังคับใช้กฎของมหาเถรสมาคมที่เข้มงวดขึ้น เพื่อรักษาภาพลักษณ์ของวงการสงฆ์ในประเทศไทย ทว่าคำถามที่ยังคงอยู่คือ พระรูปนี้จะยอมสละสมณเพศหรือจะดื้อดึงต่อไป? นี่คือสิ่งที่เราทุกคนต้องติดตามกันต่อไป