ผบ.ทร. ประกาศพร้อม ปกป้องเกาะกูด อธิปไตยของชาติ ขอให้ประชาชนมั่นใจ
2 ตุลาคม 2567 – บนเกาะกูด อำเภอเกาะกูด จังหวัดตราด พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหน่วยปฏิบัติการปกป้องเกาะกูด เพื่อตรวจสอบความพร้อมของหน่วยงานในการปฏิบัติหน้าที่ และให้ขวัญกำลังใจแก่กำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ห่างไกล โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการปกป้องอธิปไตยของชาติ และสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่า กองทัพเรือจะปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ในการรักษาความสงบสุขและผลประโยชน์ของชาติ
พลเรือเอก จิรพลกล่าวขอบคุณกำลังพลทุกนายที่เสียสละชีวิตส่วนตัวเพื่อปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ที่อยู่ห่างไกลจากบ้านและครอบครัว โดยเน้นให้ผู้บังคับบัญชาดูแลกำลังพลอย่างทั่วถึง ทั้งในเรื่องของความเป็นอยู่และสิทธิประโยชน์ พร้อมเปิดช่องทางให้รายงานปัญหาที่เกิดขึ้นได้โดยตรง ซึ่งท่าน ผบ.ทร. ยืนยันว่าตนเองจะช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้เกิดความพร้อมในทุกมิติ
นอกจากนี้ พลเรือเอก จิรพล ยังได้กล่าวถึงความพร้อมของกองทัพเรือในการดูแลและเฝ้าระวังพื้นที่ทางทะเลด้วยยุทธโธปกรณ์ที่ได้รับการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพ ทั้งระบบเฝ้าตรวจและเรดาร์ที่สามารถส่งข้อมูลเข้าสู่ศูนย์กลางในกรุงเทพฯ ทำให้หน่วยงานสามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที แม้ว่าในบางเรื่องยังมีข้อจำกัด เช่น ระบบไฟฟ้าและน้ำที่ยังต้องการการสนับสนุนเพิ่มเติม แต่ก็ได้เร่งแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง
ความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชาและการจัดการพื้นที่อธิปไตย
ในเรื่องของสถานการณ์ความมั่นคงบริเวณเกาะกูด พลเรือเอก จิรพล ได้ย้ำว่ากองทัพเรือมีความพร้อมที่จะดูแลเขตแดนทางทะเลของไทย โดยยืนยันว่าไม่มีความขัดแย้งกับประเทศเพื่อนบ้าน การทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานไทยและกัมพูชาดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ ชาวบ้านและชาวประมงที่อาศัยและทำมาหากินในพื้นที่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข
เมื่อถามถึงกรณีที่บางกลุ่มมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยและสถานการณ์ทางการเมืองที่เกี่ยวข้องกับ MOU44 พลเรือเอก จิรพลได้อธิบายว่า หน้าที่หลักของกองทัพเรือคือการรักษาอธิปไตยของชาติ และรัฐบาลได้กำหนดเขตแดนอย่างชัดเจนตั้งแต่ปี พ.ศ. 2516 ซึ่งกองทัพเรือจะดูแลพื้นที่ดังกล่าวตามที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มที่
ผู้บัญชาการทหารเรือยังเสริมอีกว่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้กำชับให้กองทัพเรือมีความพร้อม 100% ในการดูแลพื้นที่ทางทะเล หากมีข้อขัดข้องใดๆ ก็จะเร่งแก้ไขปัญหาเพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างราบรื่น และเน้นให้ประชาชนมั่นใจว่ากองทัพเรือจะสามารถดูแลความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยในพื้นที่นี้ได้อย่างแน่นอน
การยืนยันไม่มีความขัดแย้งในพื้นที่ทับซ้อน
ในส่วนของพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยและกัมพูชา พลเรือเอก จิรพลยืนยันว่า กองทัพเรือมีความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศเพื่อนบ้าน และไม่มีเหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ทุกฝ่ายสามารถพูดคุยและแก้ไขปัญหาได้อย่างสันติ ประชาชนไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยหรือสถานการณ์ทางการเมืองในพื้นที่ เพราะกองทัพเรือมีความพร้อมที่จะปกป้องอธิปไตยของชาติในทุกสถานการณ์
พลเรือเอก จิรพลยังกล่าวเสริมว่า การดูแลพื้นที่ทางทะเลต้องใช้ทรัพยากรและการวางแผนอย่างรัดกุม แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือความร่วมมือจากทุกฝ่าย และการสนับสนุนจากประชาชนเพื่อทำให้การปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพเรือประสบความสำเร็จ