ปะทะคารมระอุ! “กบ ไมโคร – ลูกตาล” เรียกร้องความยุติธรรมจาก “บอสพอล” หลังทนายเผยแม่ข่ายกว่าแสนคนอาจต้องโดนคดี
ในกระแสข่าวที่กำลังร้อนแรง กรณี “บอสพอล วรัตน์พล วรัทย์วรกุล” ถูกดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงประชาชน เกิดเป็นเรื่องที่พูดถึงอย่างกว้างขวางในสังคม ทั้งนักดนตรีชื่อดัง “กบ ไมโคร” และอดีตแม่ข่ายสาว “ลูกตาล” ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมและสงสัยว่าทำไม “พลอย อัยดา กันตถาวร” ภรรยาของกันต์ กันตถาวร ที่เป็นระดับแกรนด์ดีลเลอร์ถึงไม่ถูกดำเนินคดีไปพร้อมกัน งานนี้ทนายของบอสพอล “วิฑูรย์ เก่งงาน” ออกมาตอบโต้อย่างดุเดือด ยืนยันว่าการดำเนินคดีอยู่ในกระบวนการที่โปร่งใสและเป็นธรรม
ในรายการโหนกระแสล่าสุด ทนายวิฑูรย์ออกมาให้สัมภาษณ์เปิดเผยถึงขั้นตอนการสืบสวนคดี โดยย้ำว่าแม่ข่ายทั้งหมดรวมถึงแกรนด์ดีลเลอร์ระดับสูงอาจต้องเผชิญกับข้อหาฉ้อโกงเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ทนายยืนยันว่าในขณะนี้มีเพียงบุคคลที่เกี่ยวข้อง 8 รายเท่านั้นที่เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย ส่วนแม่ข่ายแสนกว่าคนที่อาจเข้าข่ายในคดีนี้นั้นจะต้องได้รับการพิจารณาอีกครั้ง หากดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ แม่ข่ายทั้งหมดที่มีอยู่ในระบบจะถูกเรียกมาชี้แจงถึงบทบาทและจำนวนตัวแทนที่มีอยู่ในเครือข่ายของตน
แม้ว่าวิฑูรย์จะตอบอย่างชัดเจนว่า พลอย อัยดา กันตถาวร ไม่ใช่เป้าหมายหลักในการสืบสวนของบอสพอล แต่ทางฝั่งลูกตาลยังคงแสดงความข้องใจ โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสถานะระดับแกรนด์ดีลเลอร์ซึ่งมีบทบาทสำคัญในเครือข่ายการตลาดตรง ทั้งนี้ ทนายบอสพอลได้เผยข้อมูลว่าขณะนี้ทางเขากำลังเปิดระบบเพื่อดูข้อมูลที่ชัดเจนและจะทำการเรียกร้องความยุติธรรมให้ครบถ้วน หากพบว่ามีแม่ข่ายรายใดที่ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน
ด้านกบ ไมโคร และลูกตาล ยังได้ตั้งคำถามเพิ่มเติมถึงการทำงานของดีเอสไอและการยืนยันความโปร่งใสในกระบวนการสืบสวนของคดีนี้ ซึ่งทนายย้ำว่า ทางดีเอสไอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะทำงานตามกระบวนการและกฎหมายอย่างเคร่งครัด และจะเรียกร้องให้แม่ข่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดเข้ามารับผิดชอบอย่างเท่าเทียมกัน
การปะทะคารมครั้งนี้ไม่เพียงแต่จุดกระแสในวงการสื่อ แต่ยังสร้างความสงสัยในสังคมว่าโครงสร้างธุรกิจของบริษัทดิไอคอนนั้นโปร่งใสหรือไม่ นอกจากนี้ทนายบอสพอลยังเปิดเผยเพิ่มเติมว่าจะมีพยานจากฝ่ายผู้แทนขายที่พร้อมเข้ามาให้ข้อมูลแก่ดีเอสไอเพื่อยืนยันว่าบริษัทดิไอคอนเป็นธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมายและมีการขายสินค้าจริง หากดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ พยาน 200 กว่าคนก็จะเข้ามาให้ข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่โดยตรง
ในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ รายการโหนกระแสจะกลับมาพร้อมข้อมูลและหลักฐานเพิ่มเติมที่อาจสร้างความกระจ่างในคดีนี้ หรืออาจเกิดเป็นจุดเปลี่ยนในกระบวนการพิจารณาคดี นับเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สังคมจะต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่าสุดท้ายแล้ว ใครจะเป็นผู้ถูกดำเนินคดีในคดีฉ้อโกงที่สั่นสะเทือนวงการตลาดตรงครั้งนี้