กรมสรรพากร ดีเดย์ส่งข้อมูลภาษีหัก ณ ที่จ่าย ทางอิเล็กทรอนิกส์ เริ่ม 1 ม.ค. 68
กรมสรรพากรได้ประกาศมาตรการใหม่ที่จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 เป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้การส่งข้อมูลภาษีหัก ณ ที่จ่ายต้องดำเนินการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีการกำหนดให้ผู้ที่มีหน้าที่หักภาษีและส่งข้อมูลภาษีจะต้องยื่นรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ผ่านช่องทางดิจิทัล เพื่อป้องกันการปลอมแปลงข้อมูลและเพิ่มความสะดวกในการทำธุรกรรมต่างๆ
ประโยชน์ของการยื่นภาษีหัก ณ ที่จ่ายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์
การนำระบบอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในการยื่นภาษีหัก ณ ที่จ่ายจะช่วยลดภาระในการจัดเก็บเอกสารกระดาษและลดต้นทุนการดำเนินงานของบริษัท นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันการปลอมแปลงหนังสือรับรองการหักภาษี ซึ่งมีการปลอมแปลงบ่อยครั้งในอดีต อีกทั้งยังเป็นการสร้างความโปร่งใสและเพิ่มความสะดวกสบายให้กับทั้งบริษัทและผู้เสียภาษีเอง
รูปแบบการยื่นภาษีหัก ณ ที่จ่าย
การยื่นภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายตามประกาศใหม่จะใช้แบบฟอร์มที่กำหนดโดยกรมสรรพากร ซึ่งสามารถยื่นผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ดังนี้:
- ภ.ง.ด. 1 สำหรับการหักภาษีในกรณีที่จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40
- ภ.ง.ด. 2 สำหรับการหักภาษีจากการจ่ายเงินที่เป็นเงินได้ตามมาตรา 40
- ภ.ง.ด. 3 สำหรับการหักภาษีจากเงินได้ตามมาตรา 40 ที่เกี่ยวข้องกับการจ่ายเงินให้แก่บุคคลหรือนิติบุคคล
นอกจากนี้ยังมีฟอร์มอื่นๆ ที่ใช้งานในกรณีต่างๆ เช่น ภ.ง.ด. 53 สำหรับกรณีที่มีการจ่ายเงินให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายตามมาตรา 3 เตรส.
การยื่นผ่านระบบออนไลน์
การยื่นภาษีหัก ณ ที่จ่ายจะสามารถทำได้ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสรรพากร โดยผู้มีหน้าที่หักภาษีจะต้องกรอกข้อมูลการหักภาษีในรูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ผ่านเว็บไซต์ของกรมสรรพากร ซึ่งจะช่วยให้การจัดการภาษีสะดวกและรวดเร็วขึ้น โดยจะไม่ต้องเสียเวลาในการจัดเก็บเอกสารแบบกระดาษอีกต่อไป
การอำนวยความสะดวกให้กับผู้เสียภาษี
ระบบใหม่นี้จะช่วยให้พนักงานที่มีเงินเดือนสามารถตรวจสอบและดาวน์โหลดใบรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายผ่านระบบ My Tax Account ของกรมสรรพากรได้ง่ายขึ้นตั้งแต่การยื่นภาษีประจำปีในช่วงวันที่ 1 มกราคม 2568 เป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้การยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดามีความสะดวกและโปร่งใสมากขึ้น
การปฏิบัติกรณีพิเศษ
หากผู้มีหน้าที่หักภาษีไม่สามารถยื่นข้อมูลได้ทางอิเล็กทรอนิกส์ตามที่กำหนดไว้ในกรณีฉุกเฉิน สามารถแจ้งเหตุจำเป็นต่ออธิบดีกรมสรรพากรและยื่นแบบแสดงรายการภาษีในวิธีการอื่นที่กำหนดไว้ได้
สรุป
การยื่นภาษีหัก ณ ที่จ่ายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่กำหนดโดยกรมสรรพากรจะช่วยเพิ่มความสะดวกและความโปร่งใสในการทำธุรกรรมทางภาษีทั้งในระดับบริษัทและพนักงานลูกจ้าง โดยเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 ซึ่งเป็นการปฏิรูปการยื่นภาษีที่ทันสมัยและเหมาะสมกับยุคดิจิทัลปัจจุบัน การยื่นภาษีผ่านระบบออนไลน์จะช่วยลดต้นทุนในการดำเนินงานและป้องกันการปลอมแปลงข้อมูลภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพ.